Website Marketing  สำคัญขนาดไหน?

Web Marketing คือการทำการตลาดโดยใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือ ซึ่งความหมายนี้เป็นความหมายเดียวกับ Internet Marketing นั่นเอง โดยในประเทศไทยมีการนำเม็ดเงินมาลงในการโฆษณาสูงขึ้น สื่อโฆษณาออนไลน์มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงทำให้ Web Marketing เป็นหนึ่งในช่องทางหลักในการทำโฆษณาของแบรนด์ใหญ่ แบรนด์เล็ก ต่างมาสนใจ โฟกัสการทำโฆษณาออนไลน์มากยิ่งขึ้น แต่ในการทำการตลาดบนออนไลน์ไม่ใช่เพียงแค่ซื้อโฆษณาแล้วจบไป ต้องมีความเข้าในใจเครื่องมือระดับหนึ่ง จนถึงหลักการที่ต่างจากการตลาดแบบดั้งเดิมโดยสิ้นเชิง ถ้าให้จำแนกการตลาดออนไลน์ก็สามารถแบ่งได้เป็นหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น

  • Social Media Marketing

เป็นการทำการตลาดผ่าน Social Media ทั้งหมด ซึ่งแต่ละ Social Media นั้นก็มีความแตกต่างที่ไม่เหมือนกัน ในไทยแน่นอนที่คนนิยมใช้คงจะหนีไม่พ้น Line, Facebook, Instagram แต่ละ Social Media ก็มีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป ทำให้การทำการตลาดในนี้ต้องมีความเข้าใจกับพฤติกรรมของคนค่อนข้างสูง

  • Display Marketing

การใช้แบนเนอร์ในโลกออนไลน์นับว่าอีกหนึ่งวิธียอดนิยม โดยหลักการทำงาน ของ Display Marketing คือการปล่อยแบนเนอร์ไปยังเว็บไซต์หรือที่ต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ เพื่อให้ผู้คนได้เห็น หรือคลิกโฆษณานั้น ๆ ซึ่งรูปแบบของแบนเนอร์ต่างพัฒนาขึ้นไปทุกปี

  • Search Engine Marketing (SEM)

SEM สามารถแบ่งได้ออกเป็นหน่วยย่อยได้ 2 รูปแบบด้วยกัน คือ ทำการตลาดผ่านเครื่องมือ Search เช่น Google Ads ซึ่งแน่นอนว่าเราจำเป็นที่จะต้องจ่ายเงินเพื่อให้โฆษณาของเราไปปรากฏ อีกส่วนคือการทำ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ หรือบทความที่เราเขียนติดอันดับการค้นหาโดยที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงิน ซึ่งทั้งสองแบบนั้นมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

  • Video Marketing

แน่นอนว่าการตลาดที่ใช้วิดีโอก็ต้องมาตาม ในปัจจุบันนี้เราใช้งานเกี่ยวกับ Video Streaming มากขึ้น โดยเฉพาะ YouTube ซึ่งประเภทของการโฆษณาด้วยวิดีโอมีหลากหลายรูปแบบ ในแต่ละแบบก็ย่อมมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป

  • Inbound Marketing

เรียกได้ว่าเป็นการตลาดแนวใหม่ที่เน้นให้คนเข้ามาหาเราเองด้วย Content ที่ลงเว็บไซต์ จากนั้นจึงค่อยเปลี่ยน Visitor ให้กลายเป็น Lead และลูกค้าตามลำดับ ด้วยขบวนการอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Email Marketing เพื่อฟูมฟัก Lead จนกว่าจะพร้อมซื้อสินค้าและบริการของเราเอง

การออกแบบเว็บไซด์ เน้นการค้นหา หรือ เพื่อรองรับการตลาด แตกต่างเว็บไซด์ที่ทำขึ้นมาเพื่อความสวยงาม มี Flash Animation วูบวาบสดุดตา เจ้าของเว็บไซด์ที่ยังไม่เข้าใจเรื่องของการทำงานของ Search Engine มักจะชอบเว็บไซด์ที่สวยงาม นั่นเป็นการปิดกั้นการทำงานของ Search Engine เพราะ Animation และ VDO file ต่าง ๆ Robot Search Engine ยังไม่สามารถอ่านได้ ดังนั้นการทำเว็บไซด์เพื่อการรองรับ Search Engine ควรเน้นเว็บไซด์ที่เป็น Text หรือ ข้อความ จะดีที่สุด

ปัจจุบัน Tablet หรือ Smartphone กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น ผู้คนกว่า 70 % ใช้อุปกรณ์เหล้านี้ในการค้นหา ดังนั้นการออกแบบเว็บไซต์ เพื่อรองรับ Marketing ควรออกแบบเพื่อรองรับ mobile ด้วย มิฉะนั้นท่านจะเสียลูกค้าไปเป็นจำนวนมาก

ข้อมูลสำคัญที่ควรใส่ใจในการทำเว็บไซต์อย่างมืออาชีพควรคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ เพื่อให้รองรับ Website Marketing

  1. เว็บไซด์ที่มีคุณภาพ รองรับมือถือ รองรับการค้นหาของ Search Engine ต่าง ๆ โดยเฉพาะgoogle
  2. การแจ้งเกิด Website
  3. การสร้างพันมิตร เว็บไซด์
  4. การสร้างความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ (Website Security)
  5. เข้าใจ Search Engine โดยให้ความสำคัญกับ Title tag, Meta tag, Meta keywords
  6. ความสำคัญของการจดโดเมนเนม ความปลอดภัย และ การรักษาโดเมนเนม
  7. การวิเคราะห์คู่แข่ง การสร้างอันดับการค้นหาของ Google

 

หลายคนอาจสงสัยว่าการทำWeb Marketingควรเริ่มจากอะไรก่อนดี

ทำ Web Marketing แน่นอนว่าหลายคนให้ความสนใจกับเว็บไซต์มากขึ้น เพราะเว็บไซต์เป็นศูนย์รวมของการเก็บข้อมูล และเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า นอกเหนือจากจะเป็นหน้าเป็นตาให้กับบริษัทหรือองค์กรแล้ว เว็บไซต์ยังมีความจำเป็นต่อการทำ Digital Marketing อยู่ไม่น้อย ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มทำ Web Marketing ควรจะเริ่มจากอะไรดี?

ก่อนเริ่มทำ Web Marketing ก็ต้องมี Website ก่อน และต้องเป็นเว็บไซต์ที่ดีด้วย

ใครว่าเว็บไซต์ทำง่าย ซึ่งถ้าเป็นเว็บไซต์ทั่วไปก็อาจจะใช่ แต่ถ้าเป็นเว็บไซต์เพื่อ Web Marketing คงจะไม่ธรรมดา เพราะต้องมีรายละเอียดที่มากกว่านั้น ลองมาดูกันดีกว่าว่าเว็บไซต์ที่เหมาะกับการทำ Web Marketing ต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง

  • ต้องรองรับ Mobile Friendlyคุณรู้ไหมว่าในปัจจุบันนี้คนใช้สมาร์ทโฟนเข้าเว็บไซต์แซงหน้า Desktop ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นเว็บไซต์ที่ดีต้องรองรับได้ทุกขนาดหน้าจอ สามารถอ่านได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องซูมเข้าซูมออกอีกต่อไป
  • โครงสร้างเว็บไซต์ต้องเป็นระเบียบโครงสร้างเว็บไซต์ (Site Structure) นับว่าสำคัญไม่แพ้กัน ทั้งเนื้อหา หารเชื่อมโยงต่าง ๆ ทำให้ค้นหาได้รวดเร็วและว่องไว ไม่ควรลึกลับซับซ้อน หรือแบ่งหน้าลึกจนเกินไป
  • UI ต้องสวย UX ใช้งานง่ายUI (User Interface) ต้องออกมาสวยงาม น่าดึงดูดให้คลิก สบายตา ท่องเว็บไซต์ได้นานโดยไม่เบื่อ ส่วน UX (User Experience) นับว่าสำคัญเหมือนกัน ควรจะต้องใช้งานง่าย ตอบโจทย์ผู้ใช้ ซึ่งทั้งสองอย่างนับว่าสำคัญไม่แพ้กัน

จะเห็นได้ว่าจำเป็นมากที่ควรลงทุนกับเว็บไซต์ให้มาก เพราะเว็บไซต์เปรียบเสมือนกับบ้านของเรา เป็นทรัพย์สินส่วนตัวที่คุณสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ตลอดเวลา ต่างจากการ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งเหมือนกับที่เราเช่าเขาอยู่ ไม่มีความแน่นอน

เริ่มจาก SEO หรือ Paid Search ก่อนดี?

SEO และ Paid Search เป็นทั้งสองวิธีที่จะเรียก Traffic ให้คนเข้าเว็บไซต์ได้ แต่วิธีแต่ละชนิดมีความแตกต่างในตัวเอง ทำให้หลายคนตัดสินใจเลือกได้ยากว่าจะทำวิธีไหนดี หรือทำควบคู่ ควรให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากกว่ากัน?

ข้อดีของ SEO

  • เมื่อทำสำเร็จ จะเกิด Traffic มหาศาล
  • ประหยัดงบประมาณ กว่า Paid Search
  • เห็นผลในระยะยาว

ข้อที่ควรพิจารณา SEO

  • SEO มีทั้งแบบ On Page, Off Page และการเขียนบทความ ต้องมีความรู้ในระดับหนึ่ง
  • ใช้เวลานานกว่าจะสำเร็จ

ข้อดีของ Paid Search

  • เห็นผลทันที เพียงแค่เริ่มโฆษณา ไม่จำเป็นต้องรอนาน
  • ตอบสนองความต้องการของคนได้ดี อัตราการคลิกค่อนข้างสูง

ข้อที่ควรพิจารณา  Paid Search

  • มีค่าใช้จ่ายแน่นอน ยิ่งใช้มากได้คลิกมาก ใช้น้อยก็ได้คลิกน้อยตาม
  • เป็นการทำโฆษณาในระยะสั้น
  • ต้องมีความรู้ในระดับหนึ่ง เพื่อให้ Paid Search ทำได้ดีมากขึ้น

โดยสรุปคือการทำไปควบคู่กัน แต่จะให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากกว่านั้น ให้ดูความต้องการของเราเป็นหลัก ถ้าหากใจร้อน ต้องการขายสินค้าให้ได้ไวๆ มีงบการทำการตลาดเหลือเฟือ ควรเลือก และให้ความสำคัญกับ Paid Search เพราะเป็นการตอบสนองความต้องการของคนได้ในทันที ว่าคนกำลังต้องการอะไร โฆษณาก็จะโผล่ แต่ถ้าเป็นคนใจเย็น หวังผลในระยะยาว ใช้เวลานานถึงจะเห็นผล ประหยัดว่าใช้จ่าย ควรจะให้ความสำคัญในฝั่งของ SEO มากกว่า แต่อย่างที่บอก แนะนำเลยว่าให้ทำควบคู่กันไปถึงจะดีที่สุด

Google Ads

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผู้คนยุคนี้มักใช้ชีวิตในโลกออนไลน์มากขึ้น เพราะพฤติกรรมการบริโภค เสพสื่อต่าง ๆ หรือแม้แต่การทำธุรกรรมสำคัญก็มีแอปพลิเคชันหรือสื่อโซเชียลมีเดียที่คอยอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพ แน่นอนว่าหนึ่งในเครื่องมือออนไลน์ที่ช่วยให้ใช้ชีวิตกันง่ายขึ้นคงหนีไม่พ้น Search Engines อย่าง Google ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นคลังรวบรวม Solutions ของปัญหาสารพัดอย่าง

นอกจากจะช่วยค้นหาคำตอบเรื่องที่สงสัย หรือทำให้พบสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการแล้ว Google นับเป็นช่องทางสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ด้วย พ่อค้าแม่ค้ายุคปัจจุบันไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน ก็มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าผ่านเว็บไซต์หรือเพจโซเชียลมีเดีย ส่วนเจ้าของธุรกิจที่มีหน้าร้านหรือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมระดับใหญ่ก็สามารถสร้างฐานกลุ่มเป้าหมายใหม่และเพิ่มยอดขายได้จากการทำ Google AdWords (ปัจจุบันรีแบรนด์ใหม่เป็น Google Ads)(ทั้งนี้บทความนี้เขียนขึ้นระหว่างช่วงการรีแบรนด์ จึงยังขอคงคำศัพท์ทั้งสองคำไว้ เพื่อให้ยังคุ้นเคยกัน)

หลายคนอาจเกิดคำถามว่า…จำเป็นต้องลงทุนทำโฆษณากับ Google Ads หรือ AdWords หรือไม่ จะไม่เสียเงินเปล่าโดยใช่เหตุหรือ แล้วมันต่างจากการเสียเงินลงโฆษณาในสื่อประเภท Traditional Advertisement อย่างไร และอีกสารพัดข้อกังขาในการทำ Google AdWords ถึงอย่างนั้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่วางแผนทำธุรกิจออนไลน์  Google AdWords ถือเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม

ทำไมต้องใช้ Google Ads / Google AdWords

หากสังเกตคนรอบตัวหรือแม้แต่ตัวคุณเอง สิ่งแรกที่คุณทำเมื่อต้องการหาร้านนั่งชิว ช้อปปิ้ง  คงหนีไม่พ้นเสิร์จ Google แน่นอนว่าลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายของคุณก็วนเวียนอยู่ในวงจรนี้เช่นกัน การทำแคมเปญ AdWords หรือ Google Ads จึงเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการทำการตลาดออนไลน์ได้ไม่ยาก เพราะ

1.เจาะกลุ่มลูกค้าชัดเจน คุณสามารถเลือกยิงโฆษณา AdWords ให้แสดงผลกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุม โดยระบุพื้นที่ อายุ เพศ ความสนใจ หรือแม้แต่กระทั่งสิ่งที่พวกเขากำลังต้องการและค้นหาอยู่ จึงมั่นใจได้ว่าโฆษณาของคุณจะเป็นประโยชน์และสามารถเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้กลายมาเป็นลูกค้าได้ในที่สุด

2.ตามติดทุกที่ทุกเวลา

พาร์ทเนอร์ของ Google ครอบคลุมทั้งเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นทั่วโลก รวมทั้งพร้อมรองรับการแสดงผลโฆษณารูปแบบต่าง ๆ ในอุปกรณ์การสื่อสารทุกรุ่น ทุกประเภท ทั้งคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก และโทรศัพท์มือถือ

รองรับแผนการตลาดทุกรูปแบบ

ไม่ว่าเป้าหมายแคมเปญของคุณคืออะไร Google Ads ก็มีแพลตฟอร์มโฆษณาหลากหลายประเภทและลูกเล่นมากมายที่สอดคล้องและตอบสนองการใช้งาน เพื่อให้แคมเปญของคุณบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

3.วัดผลได้จริง

คุณสามารถติดตั้งระบบ Tracking สำหรับควบคุมและวัดผลแคมเปญได้เสมอ ทำให้ไม่พลาดการจัดการและปรับเปลี่ยนแผนการตลาด ที่สำคัญ คุณจะไม่เสียเงินเปล่ากับการลงทุนโฆษณาที่ไม่คุ้มทุน เพราะคุณจะจ่ายเฉพาะเมื่อมีผู้คลิกเข้าเว็บไซต์หรือสร้าง Conversions จากโฆษณาของคุณเท่านั้น

ยังมีเทคนิค AdWords / Google Ads ให้เรียนรู้กันแบบเจาะลึกอีกมากมาย แต่หัวใจสำคัญที่สุดในการทำ Google AdWords นั้น คือลงมือทำ ก่อนจะเสิร์จหาข้อมูล AdWords ขั้นต่อไป ลองสวมบทบาทนักการตลาดออนไลน์ แล้วเริ่มแคมเปญแรกของคุณกันเถอะ