Google Home คืออะไร ?

ลำโพงอัจฉริยะที่ช่วยอำนวยความสะดวก โดยสั่งการด้วยเสียง สามารถถาม – ตอบ และทำตามคำสั่งภายใต้ smart device ซึ่งรูปร่างของ Google Home นั้นจะมีลักษณะคล้ายลำโพงเป็นรูปหยดน้ำ และมีขนาดเล็กกะทัดรัด สีขาวล้วน ส่วนแท่นด้านล่างมี 4 สี สามารถเปลี่ยนสีเป็นสีต่าง ๆ ได้ ทำหน้าที่เป็นเสมือนโคมไฟได้อีกด้วย ซึ่ง Google Home นี้ มี 3 รุ่น คือ Google Home , Google Home Mini และ Google Home Max

Google Home สามารถทำอะไรได้บ้าง ?

Google Home สามารถสตรีมเพลงจากอินเตอร์เน็ตได้ โดยบริการจาก spotify และ Google Home ยังสามารถใช้บริการจาก Google Play Music และ Youtube Music ได้อีกด้วย ซึ่ง Google Home มีฟังก์ชันคล้ายกับ Google Assistant  จึงสามารถสั่งเปิดเพลงและควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อภายในบ้านได้ เช่น การเปลี่ยนเพลง เปิดทีวี เปลี่ยนช่อง การปรับระดับเสียง การเปิด – ปิดไฟ และเครื่องปรับอากาศ หรือแม้แต่การรักษาความปลอดภัย เป็นต้น Google Home สามารถใช้ในการโต้ตอบ และเป็นอุปกรณ์ที่พร้อมใช้งานตลอดเวลา สามารถรับคำสั่งเสียงได้ แม้จากระยะไกล

วิธีการใช้ Google Home

Google Home สามารถติดตั้ง application จาก Play Store ได้โดยตรง ซึ่งแอพ Google Home สามารถตั้งค่าและควบคุมการใช้งานของ Google Home ตั้งค่าและควบคุมไปยังสิ่งต่าง ๆ ได้โดยตรง หลังจากติดตั้งและตั้งค่าสิ่งต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถเปิดใช้งานโดยพูดคำว่า

“ OK Google” หรือ “ Hey Google ”  ตามด้วยคำสั่งที่เราต้องการจะสั่งการ เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถใช้งาน Google Home ได้อย่างสะดวกสบาย

Google Home ถูกสร้างมาเพื่อตอบโจทย์คนในยุคปัจจุบันที่ชอบความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ ๆ ทำให้การใช้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น และเป็นการประหยัดเวลาเพื่อให้คุณสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้อีกมากมาย

ด้วยการนำเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (The Internet of Things) มาประยุกต์ใช้โดยเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้าน อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบรักษาความปลอดภัย และอื่น ๆ โดยผู้อยู่อาศัยสามารถควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ได้ผ่านทางสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์เคลื่อนที่ ทำให้ได้รับความสะดวกสบาย แถมยังช่วยประหยัด ค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน รวมไปถึงความปลอดภัย ที่เพิ่มมากขึ้น จากการมีระบบอัตโนมัติต่าง ๆ มาเป็น “ผู้ช่วย” ภายในบ้าน เช่น ตรวจจับผู้บุกรุกบ้าน ตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมภายในบ้าน ไปจนถึง วัดค่าแก๊สในอากาศจากเซ็นเซอร์เพื่อป้องกันการรั่วไหล เป็นต้น นอกจากนี้ อุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่เริ่มมีให้เลือกมากขึ้นในตลาด ทำให้ราคามีโอกาสลดลง และเป็นที่ต้องการในระยะยาว

จึงทำให้ตลาดธุรกิจสมาร์ทโฮมมีการเติบโตมากขึ้น ทำให้ เกิดการแข่งขันทางการตลาดเพิ่มขึ้น และธุรกิจ Google Home ถูกสร้างมาเพื่อตอบโจทย์คนในยุคปัจจุบันที่ชอบความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ ๆที่ช่วยอำนวยความสะดวก ทำให้การใช้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น และเป็นการประหยัดเวลาเพื่อให้คุณสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้อีกมากมาย

อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่กำลังมาแรงอย่างมาก ก็คือ smart speaker ที่เป็นระบบการสั่งการด้วยเสียง เป็นเสมือนตัวเชื่อมกับอุปกรณ์ LOT อื่น ๆภายในบ้าน

– Amazon echo ได้ปล่อยตัวออกมาก่อน แล้วได้การตอบรับที่ดี ต่อมาทาง google ได้ปล่อยตัว google home และตีตลาดในหลากหลายประเทศอย่าง อินเดีย และ ไทย ความสามารถของ google assistant คือจุดแข็งของสินค้าตัวนี้ เพราะคงไม่มีใครที่จะสู้กับคลังข้อมูลมหาศาลของทาง google ที่เก็บและจัดระบบมานานได้ ซึ่งทาง Amazon echo นั้นจำกัดแค่ในประเทศอังกฤษและอเมริกาเท่านั้น ส่งผลให้ธุรกิจของ googleมียอดขายดีกว่า

– ความสามารถของ Google Assistant คือจุดแข็งของสินค้าตัวนี้ เพราะคงไม่มีใครที่จะสู้กับคลังข้อมูลมหาศาลของทาง Google ที่เก็บ และจัดระบบมานานได้ และยิ่ง Google Assistant ทำงานได้มีประสิทธิภาพเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้สินค้าประเภทเดียวกันของเจ้าอื่นรวมถึง Alexa ของ Amazon อยู่ในสายตาของผู้ใช้ที่เคยผ่านสินค้าของ Google มาแล้ว น้อยลงเรื่อย ๆ

โดยคนในแวดวงธุรกิจมองว่า ณ ขณะนี้ Google เพียงต้องการตั้งรับในตลาดของ ผู้ช่วยอัจฉริยะ เท่านั้น Google พัฒนา Google Assistant ขึ้นมา และใส่เข้าไปในสินค้าของบริษัท รวมถึงอนุญาตให้ผู้ผลิตรายอื่นสามารถใช้ Google Assistant ได้ด้วย ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นการพยายาม “ขัดขา” Alexa ของ Amazon เป็นเป้าหมายสำคัญ

แนวโน้มตลาด smart home ในไทย

สำหรับประเทศไทยนั้นต้องยอมรับว่า เทรนด์ของตลาดสมาร์ทโฮมกำลังค่อยๆเข้ามาจับลูกค้าที่เป็นชนชั้นกลางที่มีรายได้และมีกำลังซื้อ โดยมีการคาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฮมในปี 2563 จะเพิ่มสูงขึ้นจากปี 2559 หรือเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 40% ต่อปี ซึ่งที่ผ่านมา เราจะเห็นว่ามีผู้เล่นรายใหม่ทั้งในไทยและต่างประเทศเข้ามาชิงส่วนแบ่งการตลาดอุปกรณ์สมาร์ทโฮมเพิ่มขึ้น รวมไปถึงเกิดความร่วมมือใหม่ๆ ระหว่างเจ้าของเทคโนโลยีสมาร์ทโฮม กับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในการสร้างโครงการที่อยู่อาศัยอัจฉริยะ และการพัฒนาแอปพลิเคชันระบบบ้านอัจฉริยะเพื่อดูแลผู้สูงอายุ โดยคาดว่าจะมีความต้องการสูงขึ้น ตามแนวโน้มสังคมผู้สูงอายุของไทยที่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ

ในอนาคตจะมีนวัตกรรมสมาร์ทโฮมใหม่ๆ วางขายในตลาดไทยมากขึ้น โดยผู้ใช้ก็มีแนวโน้มที่จะเลือกใช้อุปกรณ์ที่ใช้ง่าย ไม่ซับซ้อน และมีราคาน่าสนใจ ในขณะที่กลุ่มผู้ใช้งานธุรกิจ เจ้าของอาคาร อสังหาริมทรัพย์ และเจ้าของกิจการที่เกี่ยวข้องกับบ้านและที่อยู่อาศัยจะหันมาให้ความสนใจในการลงทุนกับเทคโนโลยีเหล่านี้กับองค์กรของตนเช่นกัน

3 ปัจจัยเพิ่มโอกาสการขาย

โอกาสต่างๆ ที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เลือกที่จะนำอุปกรณ์ Smart Home ต่างๆ มาใช้กับโครงการที่อยู่อาศัยของตนเองเพื่อเพิ่มจุดแข็งและความสามารถในการแข่งขันได้มากขึ้น โดยเฉพาะความสามารถในการเข้าไปตอบโจทย์ 3 ปัจจัยหลักต่างๆ เหล่านี้ ประกอบด้วย

  1. การเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน (Embedded into everyday life)
  2. สิ่งที่ทำให้เกิดความประทับใจ (Wow factors) 
  3. การบริการหลังการขาย (Aftersales service)

Google Home Vs Amazon Echo

ด้านการติดตั้ง

Amazon Echo และ Google Home จะมีการใช้งานผ่าน Application บนสมาทโฟนเหมือนกัน แต่ Amazon Echo จะจำกัดการใช้งานได้แค่สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ เท่านั้น การติดตั้งจะยุ่งยากกว่า Google Home เพราะ Google Home สามารถติดตั้งผ่าน Play Store ได้เลย แต่ Amazon Echo ต้องดาวน์โหลดไฟล์มาติดตั้งในโทรศัพท์เอง

การฟังเพลง

การฟังเพลงของทั้งสองอุปกรณ์สามารถใช้งาน Spotify ได้เหมือนกัน และทั้งสองอุปกรณ์ยังมีบริการของแต่ละค่าย อย่างเช่น Amazon ก็จะมี Amazon Music ส่วน Google มี Youtube Music , Google Play Music แต่ทั้งคู่จะต้องเสียค่าบริการ และมีเพียง Amazon เท่านั้นที่ให้บริการในประเทศไทย และเสียงของลำโพงทั้งสอง จะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน Amazon Echo เสียงจะใสกว่า แต่ Google Home จะเสียงทุ้ม เน้นเสียงเบสเป็นหลัก

การพูดและตอบโต้

จุดขายของ Google Home มีความเสถียรและเข้าใจในภาษาพูด มากกว่า Amazon Echo อีกทั้ง Google Home ยังสามารถจดจำเสียงของผู้ใช้งานได้ นอกจากนี้Google Home ยังมีจุดเด่นในเรื่องของการมีสำนียงที่หลากหลาย รวมถึงภาษาไทยด้วย เช่น ” ฮัลโหล ฮาวอายู ” google home จะมีการเรียนรู้ที่หลากหลายกว่า amazon echo เช่นเมื่อถามว่า ”how are you”ซ้ำกันหลายรอบ google home จะตอบคำถามไม่ซ้ำกัน ในขณะที่ amazon echo จะตอบกลับมาด้วยประโยคเดิม

ความสามารถเสริม

ตัว Amazon Echo จะมีความสามารถมากกว่าเนื่องจาก Amazon Echo ออกตัวสินค้ามานานกว่า Google Home จึงมีความสามารถเสริมที่มากกว่า ส่วน Google Home มีความสามารถน้อยกว่า แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Google Home สามารถเรียกใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องเพิ่มความสามารถแบบ Amazon Echo

จากการเปรียบเทียบการใช้งานของอุปกรณ์ Amazon Echo และ Google home เสียงส่วนใหญ่เลือกใช้ Google home ถึงแม้ว่าจะยังมีความสามารถน้อยกว่า Amazon Echo แต่ Google home มีความโดดเด่นของเรื่องการติดตั้งง่าย เข้าใจภาษาพูดได้ดีกว่า และเพิ่มความสามารถใหม่ๆได้มากกว่า เพราะ Google home มีการเรียนรู้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ฝั่งของ Amazon Echo ใช้เวลาพัฒนาเรียนรู้นานกว่าพอสมควร